กลุ่มทุนไต้หวัน จับมือ พันธมิตรไทย รุกลงทุน ตั้งโรงงาน ผลิต เวชศาสตร์ความงามในไทย มูลค่า 2.5 พันล้านบาท
กลุ่มทุนเวชศาสตร์ ความงามไต้หวัน จับมือ พันธมิตรไทย

กลุ่มทุนไต้หวัน จับมือ พันธมิตรไทย รุกลงทุน ตั้งโรงงาน ผลิต เวชศาสตร์ความงามในไทย มูลค่า 2.5 พันล้านบาท  ตั้งโรงงานที่ จังหวัดปทุมธานี เป็นฐานการส่งออกไปจีน และ ภูมิภาคอาเซียน 

 

นายแพทย์อารอน เชีย-เซียน เซีย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไดมอนด์ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนา และ ผลิต เครื่องมือทางการแพทย์และเวชศาสตร์ความงาม จากประเทศไต้หวัน แถลงถึงแผนการลงทุนตั้งโรงงานผลิตเครื่องมือแพทย์และเวชศาสตร์ความงามในไทยว่า บริษัทฯ ได้ศึกษาตลาดในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาอย่างต่อเนื่อง และ ตัดสินใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยโดยร่วมมือกับพันธมิตรไทย 5 ราย ได้แก่

บริษัท เค.เอ็น.เอ. อินเตอร์ฟาร์มา จำกัด,  นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ แพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง และผู้ก่อตั้ง Rassapoom Clinic,  นายแพทย์ปิยวัฒน์      หิรัญนาท ผู้บริหาร และผู้ก่อตั้ง Kay Hay Clinic, แพทย์หญิงนาตยา รักพ่วง แพทย์เฉพาะทางด้านนรีเวชวิทยา และผู้ก่อตั้ง Dr. Aomthong Clinic และนายแพทย์กิตติธัช สินพิพัฒน์พร ผู้บริหาร และผู้ก่อตั้ง La Ferly Clinic

โดยจัดตั้งบริษัท Aesthetic Alliance All  จำกัด (AAA) ด้วยทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท บริษัท ไดมอนด์ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด เข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 49% ในขณะที่พันธมิตรทั้ง 5 ท่านถือหุ้นในสัดส่วน 51% บริษัทจะมีการตั้งโรงงานที่จังหวัดปทุมธานี บนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ โดยใช้เงินลงทุนไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท

นายแพทย์อารอน กล่าวว่า โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตเครื่องมือแพทย์ โดยเม็ดเงินลงทุน 2,000 ล้านบาท จะนำไปใช้ในการลงทุนในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องจักร การวิจัยและพัฒนา และสิทธิบัตรการผลิต 4 รายการ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ในกลุ่มความงาม (Aesthetic)

โดยโรงงานจะเริ่มก่อสร้างในวันที่ 1 มกราคม 2569   และคาดว่าจะสามารถเริ่มขบวนการผลิตได้ในปี 2570 เบื้องต้นจะผลิต 4 ผลิตภัณฑ์ โดย 2 ผลิตภัณฑ์แรกคือ เส้นใยไหมสำหรับกระชับหน้า (Miracal Thread Lifting) โดยจะมีกำลังการผลิตในปีแรก 100,000 เส้นต่อเดือน

 และ  NeoFilera นวัตกรรมใหม่ของการฉีดฟิลเลอร์กระตุ้นคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย ซ่อมแซมผิวได้อย่างล้ำลึก ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ด้วยพลังของ Poly-D, L-lactic-acid (PDLLA) คืนความยืดหยุ่นของผิว ลิขสิทธิ์ของ บริษัท ไดมอนด์ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด จำนวน 100,000 ขวดต่อปี อย่างไรก็ตามโรงงานสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ตามความต้องการของตลาด

ส่วนอีก 2 ผลิตภัณฑ์ นายแพทย์อารอน กล่าวว่า อยู่ระหว่างการพัฒนาและจะสามารถนำมาผลิตได้หลังจากโรงงานสร้างเสร็จ

“โรงงานในประเทศไทยจะเป็นฐานในการผลิตเพื่อขายในประเทศไทยและส่งออกไปในต่างประเทศโดยเฉพาะในเอเชีย และ ตะวันออกลาง โดยในระยะแรกจะส่งออกไปใน จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม

และในระยะถัดไปจะส่งออกไปใน ประเทศกัมพูชา ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน และ ตะวันออกกลาง โดยสัดส่วนการส่งออกจะอยู่ที่ 70% และ 30% ขายภายในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายรายได้ในปีแรกที่ 500 ล้านบาท และ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี โดยคาดว่าภายใน 3 ปี จะสามารถคืนทุนจากเม็ดเงินลงทุนที่ลงไปได้

โรงงานในไทยจะจ้างงานคนไทยในปีแรกประมาณ 50 คน และ คาดว่าจะเพิ่มเป็น 200 คนในระยะต่อไป พร้อมกับจะมีการพัฒนาบุคลากรไทยให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงาม จากบริษัทแม่ในไต้หวัน” นายแพทย์อารอน กล่าว

กลุ่มทุนไต้หวัน จับมือ พันธมิตรไทย รุกลงทุน

มั่นใจไทยเป็น Medical Hub ในอาเซียน

นายแพทย์อารอน กล่าวว่า ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีศักยภาพ ในการเป็นศูนย์กลางด้านการรักษาพยาบาล (Medical Hub) โดยเฉพาะในเรื่องของเวชศาสตร์ความงาม เพราะประเทศไทยมีความพร้อม ด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสามารถ ตลาดด้านความงามมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด  รวมถึงสิทธิประโยชน์ด้านภาษี และการส่งเสริมลงทุนที่เอื้ออำนวย

และที่สำคัญที่สุด คือความร่วมมือ และความสัมพันธ์       อันยาวนาน รวมถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ เค.เอ็น.เอ. ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 3 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เราได้ร่วมมือกันมา บริษัทฯ เห็นถึงความเชี่ยวชาญด้านการจัดการ การตลาด และเครือข่ายพันธมิตรแพทย์ด้านความงามที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการขยายตลาดในประเทศไทย

และการผลักดันให้โรงงานในประประเทศไทยสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงออกสู่ภูมิภาคเอเชีย และตะวันออกกลาง โดยการเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพียงแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียในครั้งนี้ จะทำให้เราสามารถครอบคลุมการให้บริการผลิตภัณฑ์ได้ทั่วโลก

โดยโรงงานในประเทศไทยจะดูแลตลาดในเอเชียทั้งหมด รวมถึงตะวันออกกลาง ส่วนศูนย์การผลิตในไต้หวันจะดูแลการผลิตและจำหน่ายในไต้หวัน พร้อมส่งออกในโซนยุโรปและอเมริกา ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นการแบ่งมาร์เก็ตแชร์ที่เหมาะสม และเราคาดหวังว่าประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องมือแพทย์ด้านความงามในเอเชีย สร้างรายได้และเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศได้อย่างมหาศาล นายแพทย์อารอน กล่าว

บริษัทไดมอนด์ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ประเทศไต้หวัน มีรายได้ปี 2567 25 ล้านเหรียญสหรัฐ(ประมาณ 850 ล้านบาท) และมีเป้าหมายรายได้ที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(1,020 ล้านบาท)ในปี 2568

จากผู้นำเข้า สู่การเป็น ผู้ส่งออก

นาดิ้รชา ปาทาน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.เอ็น.เอ. อินเตอร์ฟาร์มา จำกัด กล่าวว่า เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนวิสัยทัศน์ ในการเป็น ผู้นำด้านนวัตกรรมความงามแบบครบวงจร และ ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมความงามไทย ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

โดย เค.เอ็น.เอ. มองเห็นศักยภาพของไดมอนด์ ไบโอเทคโนโลยี ในฐานะผู้บุกเบิกเทคโนโลยีชีวการแพทย์ที่ทันสมัย และ เล็งเห็นถึงโอกาสอันยิ่งใหญ่ ในการนำเทคโนโลยี และ ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องมือแพทย์ ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานในระดับสากลมาสู่ประเทศไทย

ความร่วมมือนี้ไม่ได้เป็นเพียงการลงทุนร่วมกัน แต่เป็นการผนึกกำลังเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม พัฒนายกระดับมาตรฐานวงการเครื่องมือแพทย์ด้านความงามในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาต้องพึ่งพาการนำเข้า ต่อไปเราจะเป็นผู้ส่งออก รวมทั้งส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในเวทีโลกในฐานะผู้ผลิต

“ตลาดเวชศาสตร์ความงามมี มูลค่าตลาดทั่วโลกกว่า แสนล้านบาท การที่เราลงทุนในครั้งนี้ จะทำให้ เรามีส่วนแบ่งตลาดในตลาดนี้จากทั่วโลก” นาดิ้รชา กล่าว

นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ แพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง และผู้ก่อตั้ง Rassapoom Clinic และเป็นอีกหนึ่ง    หัวเรือใหญ่ในส่วนพันธมิตรผู้ร่วมลงทุนไทยกล่าวเสริมถึงแนวโน้มตลาดธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของไทย กล่าวว่า ตลาดความงามของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ มีศักยภาพสูง ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า ธุรกิจความงามในประเทศไทยเติบโตต่อเนื่อง 5 ปี และเป็นหนึ่งใน 10 ธุรกิจดาวเด่นประจำปี 2568

จากรายงานการศึกษาของศูนย์วิจัย กสิกรไทย คาดการณ์ว่า ตลาดศัลยกรรมและเวชศาสตร์ความงามในประเทศไทย จะมีมูลค่าประมาณ 76,500 ล้านบาท ในปี 2568 มีอัตราการเติบโต2.8% เมื่อเทียบกับปี 2567

นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ กล่าวว่า ความร่วมมือกับไดมอนด์  ไบโอเทคโนโลยี ครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือครั้งสำคัญระดับประเทศ ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีที่จะนำ เทคโนโลยี และ นวัตกรรมระดับโลก มาสู่ประเทศไทย

นอกจากจะช่วยยกระดับมาตรฐานการรักษาในคลินิกความงาม แล้ว  ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในไทยภายใต้เทคโนโลยีระดับโลกจะได้รับการยอมรับมากขึ้น

การย้ายฐานการผลิตมาประเทศไทย ก็จะทำให้ผู้บริโภคได้รับบริการด้วยต้นทุนที่ถูกลง ไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจึงเป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศ และสร้างงานให้กับตลาดแรงงานไทยด้วย  นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : https://bangkokx.me/green-economy-28042025/

ที่มาของข้อมูล : https://www.diamond-biotechnology.com/en/about-us/

[addtoany]
Ellipse 1
กองบรรณาธิการ Bangkok X