
เปิด 3 ของขวัญปีใหม่ “คลัง”ลดภาษี-เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน-การออม ทั้ง ลดภาษี และ ค่าธรรมเนียม การโอนกรรมสิทธิให้กับภาคอสังหา และการหักลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท ขณะที่ สถาบันการเงินของรัฐ ออกมาตรการลดดอกเบี้ย และ เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน รวมไปถึง การเปิดให้เข้าชม พิพิธภัณฑ์ของ กรมธนารักษ์ และ ส่วนลดในการซื้อทรัพย์สินรอการขายสูงสุด 30%
ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง พรชัย ฐีระเวช ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและรับทราบการดำเนินมาตรการ/โครงการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชน โดยมี 3 มาตรการหลักคือ
เปิด 3 ของขวัญปีใหม่ “คลัง”
1.มาตรการภาษีและค่าธรรมเนียม จำนวน 2 มาตรการ ได้แก่
1.1 มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567 โดยขยายระยะเวลาในการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 2% เหลือ 1% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน
สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ และห้องชุด (ทั้งบ้านมือ 1 และมือ 2 เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญา
โดยไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน มีผลตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
1.2 มาตรการ “Easy E-Receipt” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนการบริโภคในประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีให้ใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินจำนวน 50,000 บาท โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร ไม่รวมถึง
(1) ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
(2) ค่าซื้อยาสูบ
(3) ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
(4) ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
(5) ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต และค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 แม้ว่าจะจ่ายค่าบริการระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ก็ตาม
และ (6) ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
2.มาตรการ/โครงการของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อเสริมสภาพคล่อง ลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และเสริมสร้างวินัยการเงินให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ รวมทั้งสิ้นจำนวน 19 มาตรการ/โครงการ เช่น
โครงการมีออม มีลุ้น กับสลากออมสิน 2 ปี ฉลองปีใหม่ (ธนาคารออมสิน) เพื่อส่งเสริมการออมผ่านสลากออมสิน สำหรับผู้ฝากสลากออมสินพิเศษ 2 ปี ทั้งแบบสลากและดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2566 – 31 มกราคม 2567 วงเงินรางวัลพิเศษรวมจำนวน 111 ล้านบาท กำหนดการออกรางวัลจำนวน 1 ครั้ง สำหรับงวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567,
โครงการวินัยดี มีเงิน (ธนาคารออมสิน) เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับลูกค้าที่มีวินัยทางการเงิน สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อ วงเงินกู้ไม่เกิน 200,000 บาท ที่ปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขของธนาคาร เช่น มีประวัติการชำระหนี้ดีไม่น้อยกว่า 3 ปี เป็นต้น จะได้รับเงินรายละ 500 บาท ซึ่งสามารถกดรับสิทธิผ่าน Application MyMo ได้ภายในวันที่ 15 มกราคม 2567,
โครงการสินเชื่อเสริมแกร่ง SME เกษตร (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร: ธ.ก.ส.) เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเกษตร ช่วยเหลือลูกค้าเกษตรและผู้มีรายได้น้อยตลอดห่วงโซ่สินค้าเกษตร
และสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เกษตรเข้าถึงแหล่งเงินทุน วงเงินกู้สูงสุดต่อรายไม่เกิน 100 ล้านบาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ใน 2 ปีแรก และคงอัตราดอกเบี้ยในปีที่ 3 – 4 ที่ร้อยละ 4 ต่อปี
หากปฏิบัติตามเงื่อนไขของธนาคาร และได้รับส่วนลดค่าวิเคราะห์ 10,000 บาท สำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีเงินกู้ใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มกราคม 2567 และมีวงเงินกู้ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567โครงการของขวัญปีใหม่ 2567 เพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินสำหรับลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธนาคารอาคารสงเคราะห์: ธอส.)
เพื่อส่งเสริมการมีวินัยทางการเงินในการผ่อนชำระเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย และเติมกำลังซื้อเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศช่วงเทศกาลปีใหม่
สำหรับการจ่ายชำระหนี้เงินกู้ผ่าน Application “GHB ALL GEN” โดยได้รับเงินรายละ 1,000 บาท ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 – กุมภาพันธ์ 2567
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด,โครงการ บสย. พร้อมช่วย (บสย.) เพื่อลดภาระหนี้ให้กับลูกหนี้ของ บสย. โดยมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น สามารถตัดเงินต้นได้ทั้งจำนวนของยอดชำระ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ลดเงินต้นสูงสุดร้อยละ 15 เป็นต้น ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ บสย. กำหนด ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
และ 3. มาตรการ/โครงการอื่น โดยหน่วยงานในสังกัดฯ มีการจัดทำมาตรการ/โครงการของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 เช่น
โครงการเที่ยวปีใหม่สุขใจไปกับพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชน (กรมธนารักษ์) กรมธนารักษ์เปิดพิพิธภัณฑ์สังกัดกรมธนารักษ์ จำนวน 5 แห่ง ได้แก่
1) พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์
2) พิพิธภัณฑ์บางลำพู
3) พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดเชียงใหม่
4) พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดสงขลา
และ 5) พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดขอนแก่น
ให้ประชาชนเข้าชมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 – 14 มกราคม 2567,
โครงการซื้อทรัพย์สินรอการขาย (Non – Performing Asset: NPA) รับส่วนลดสูงสุด 30% สำหรับทรัพย์ที่เข้าร่วมรายการ เมื่อโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 29 มีนาคม 2567 (บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด: บสอ.) เพื่อแบ่งเบาภาระผู้สนใจซื้อทรัพย์ NPA ให้มีที่อยู่อาศัย ค้าขาย หรือลงทุน เป็นต้น,
มาตรการจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน และการยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์: สำนักงาน ก.ล.ต.) ผู้ลงทุน Thai ESG ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป
ได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อยภาษีวงเงิน 100,000 บาท/ปี สำหรับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ประสงค์จัดตั้งกองทุนรวม Thai ESG ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม คำขอจัดตั้ง สำหรับคำขอที่ยื่นระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2567
ที่มาของข้อมูล : www.mof.go.th
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : https://bangkokx.me/thai-economy-world-bank-bot-12062024/
