
กรุงไทย คอมพาส คาด เศรษฐกิจไทย ปี 68 เติบโต 2% ผลจากความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก แนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับภาษีกับสหรัฐฯ ยังมีความไม่ชัดเจนในหลายประเด็น ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทย
กรุงไทย คอมพาส (Krungthai COMPASS) ออกรายงานประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2568 หลังจากที่ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เผยแพร่รายงานอัตราการเติบโต ของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสสอง ของปี 2568 ว่า มีอัตราการเติบโตที่ 2.8% ลดลงจาก 3.2% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568
ทำให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 3% และ สภาพัฒน์ฯ คาดว่าทั้งปีเศรษฐกิจไทยจะเติบโต ที่ 1.8-2.3% โดยมีค่ากลางที่ 2% ว่า
แม้เศรษฐกิจไตรมาสสอง ปี 2568 จะขยายตัวดี แต่ระยะข้างหน้าแรงส่งหลักของเศรษฐกิจมีทิศทางชะลอลง หลังการประกาศอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่แม้จะลดความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า แต่คาดว่าหลายประเทศจะเร่งระบายสินค้ามายังตลาดที่สาม ซึ่งส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ ผลจากการเร่งส่งออกสินค้าในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้สหรัฐฯ มีสต๊อกสินค้าในระดับสูง ที่อาจเพียงพอ ต่อ ความต้องการในปี 2568
โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯ มูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนในช่วง มี.ค.-มิ.ย. 2568 สูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 4.8 พันล้านดอลลาร์
ซึ่งคำสั่งซื้อระยะข้างหน้าขึ้นอยู่กับ ความสามารถในการ de-stocking ของสหรัฐฯ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่อาจกลับมาเร่งขึ้น
จากผลของภาษี อีกทั้งยังต้องติดตามความเสี่ยงการขึ้น sectoral tariff ในสินค้า กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งที่ผ่านมาไทยส่งออกได้ดี โดยคิดเป็นกว่า 6% ของมูลค่าการส่งออกไทยไปยังสหรัฐ
ในขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวมีความเสี่ยงชะลอลงมากกว่าที่คาด แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่ม long haul ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายต่อคนสูงจะสามารถขยายตัวได้กว่า 17.4%YoY และ ทดแทนนักท่องเที่ยวในกลุ่ม short haul ได้บางส่วน
อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวในกลุ่ม short haul ยังคงมีสัดส่วนสำคัญคิดเป็น 73% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งต้องเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่น
กรุงไทย คอมพาส คาด เศรษฐกิจไทย ปี 68 เติบโต 2%
กรุงไทย คอมพาส มองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวได้ที่ 2.0%YoY โดยครึ่งหลังของปีคาดว่าจะขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ 1.0%YoY จากครึ่งปีแรกที่ขยายตัวได้ 3.0%YoY
ท่ามกลางความเสี่ยงจากผลกระทบของข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ โดยเฉพาะภาษี transshipment ที่ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางดำเนินการที่ชัดเจน ซึ่งเป็นความท้าทายต่อความสามารถในการปรับตัวของห่วงโซ่อุปทานไทย
ที่มาของข้อมูล : https://krungthai.com/th/financial-partner/economy-resources/business-digest
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : https://bangkokx.me/nesdb-econ-18082025/
