BangkokX-Horizontal
ตลาดหุ้นเอเซียปรับตัวลดลง หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีสหรัฐฯเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
set-9

ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง(วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566) หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้นทำให้เงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเซียไปลงทุนในตลาดทุนและตลาดพันธบัตรในประเสหรัฐอเมริกาและยุโรป

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ปรับตัวลดลงหลังจากที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของรัฐบาลสหรัฐยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเกิน 5% ต่อปี โดยดัชนี MSCI ร่วงลง 0.3% ในชั่วข้ามคืน และ ดัชนี Nikkei 225  ของญี่ปุ่นปิดตัวลดลง…หลังจากผู้ว่าการธนาคารแห่งญี่ปุ่น Kazuo Ueda กล่าวกับรัฐสภาว่าธนาคารกลางไม่จำเป็นต้องรอจนกว่าค่าจ้างที่แท้จริงจะกลายเป็นบวกก่อนที่จะออกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

เช่นเดียวกับดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงร่วงลง 57.17 จุด และดัชนีหุ้น Bluechip ของจีนแผ่นดินใหญ่ ลดลง 0.24% หลังจากที่ทางการจีนได้ขอให้ Ping An Insurance Group เข้าถือหุ้นใน Country Garden  ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ขณะที่โฆษกของ Ping An Insurance Group  กล่าวว่าบริษัทไม่ได้รับการติดต่อจากรัฐบาล และปฏิเสธข้อมูลที่รายงานโดยรอยเตอร์

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,404.97 จุด ลบ 6.80 จุด หรือ 0.48% โดยที่นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,112.06 ล้านบาท

การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเซียปรับตัวลดลงนอกจากจะเป็นผลจากปัจจัยภายในประเทศของแต่ละประเทศแล้ว การเคลื่อนย้ายเงินลงทุนไปลงทุนในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ให้ผลตอบแทนสูงยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเซียปรับตัวดลง ในขณะที่ตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ยังคงปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนีหุ้น S&P 500 (SPX) เพิ่มขึ้น 0.10% และ Nasdaq Composite (IXIC) เพิ่มขึ้น 0.08%

“ตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกาและยุโปร ที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลมาจากเงินทุนไหลเข้าหลังจากที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรของสหรัฐฯ มีการปรับตัวสูงขึ้น และตลาดเงินคาดว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยสูงสุด และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2567”  Rhys Williams หัวหน้านักยุทธศาสตร์ของ Sprouting Rock Asset Management ในเมือง Bryn Mawr รัฐเพนซิลวาเนีย กล่าว

ในขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นในหุ้นกลุ่มดูแลสุขภาพและรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ในขณะที่นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางในกลุ่มประเทศยุโรปน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเนื่องจากผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในยุโรป แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคในยูโรโซนได้เพิ่มขึ้นและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนข้างหน้าจะทรงตัวอยู่ที่ 4%

 

ราคาทอง และน้ำมันร่วง

ในขณะที่ระดับราคาน้ำมันดิบร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนจากความกังวลต่ออุปสงค์ของสหรัฐฯ และจีนที่ลดลง ในขณะที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนระยะสั้นของกระทรวงการคลังปรับตัวสูงขึ้น และพันธบัตรระยะยาวก็ลดลง โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์สตกลง 2.07 ดอลลาร์ปิดที่ 79.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบสหรัฐร่วง 2.04 ดอลลาร์ปิดที่ 75.33 ดอลลาร์

ราคาน้ำมันร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนจากความกังวลต่ออุปสงค์ของสหรัฐฯ และจีนที่ลดลง ในขณะที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนระยะสั้นของกระทรวงการคลังปรับตัวสูงขึ้น และพันธบัตรระยะยาวก็ลดลง

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาด Brent ตกลง 2.07 ดอลลาร์ปิดที่ 79.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบสหรัฐร่วง 2.04 ดอลลาร์ปิดที่ 75.33 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 0.8% อยู่ที่ 1,957.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

Ellipse 1
กองบรรณาธิการ Bangkok X

บทความที่เกี่ยวข้อง