
SIAM1928 เปิดตัว “จตุมหาราชิกา” บุกตลาดโลก ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 เติบโต 70% หลังคว้ารางวัลระดับโลก The Winner ในสาขา Artisan จากเวที Art and Olfaction Awards 2025
ณัท เวชชศาสตร์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ SIAM1928 และ สุคนธกร หรือนักปรุงน้ำหอม (Perfumer) ผู้สืบทอดสูตรน้ำอบปรุงเจ้าคุณ รุ่นที่ 4 เปิดเผย แผนธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2568 ภายใต้แบรนด์ SIAM1928 ว่า
บริษัท เปิดตัวน้ำหอมคอลเลคชั่นใหม่ ชุด จตุมหาราชิกา (Catumaharajika Collection) Limited Edition ครั้งแรกของ แบรนด์ SIAM1928 โดย Collab กับ Iconic perfumer นักปรุงน้ำหอมแถวหน้า ของเมืองไทย 4 แบรนด์ดัง Odyssey Skonx Perfumery Tada Perfumer และ Stranger Parfumerie ที่โด่งดังในกลุ่ม Luxury Niche
และได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมถ่ายทอดกลิ่นในแบบของตัวเอง คือ
- กลิ่นจตุมหาราชิกาทิศใต้ “ท้าววิรูฬหก”
โดย คุณอนันต์สิทธิ์ วงศ์กรวณิชย์ จากแบรนด์ Odyssey
- กลิ่นจตุมหาราชิกาทิศตะวันออก “ท้าวธตรฐ”
โดย คุณศรุจ ตั้งธราธร ผู้ก่อตั้ง Skonx Perfumery
- กลิ่นจตุมหาราชิกาทิศตะวันตก “ท้าววิรูปักษ์”
โดย คุณธาดา อาชาวงศ์ จากแบรนด์ Tada Parfumeur
- กลิ่นจตุมหาราชิกา ทิศเหนือ “ท้าวกุเวรหรือ ท้าวเวสสุวรรณ”
โดย คุณปฤณ ลมรส จากแบรนด์ Stranger Parfumerie, PRINN, Parfum Prissana
SIAM1928 เปิดตัว “จตุมหาราชิกา” บุกตลาดโลก
ตั้งเป้ารายได้โต 70%
“เป็นครั้งแรก ที่ผมไม่ได้ลงมือปรุงกลิ่นด้วยตัวเอง แต่ทำหน้าที่ เป็นผู้ออกแบบแนวคิด และ มอบหมายให้นักปรุงน้ำหอมชาวไทย ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล มาร่วมถ่ายทอดกลิ่นในแบบของตนเอง
ความพิเศษของคอลเลคชันนี้ อยู่ที่การจับคู่ เทพผู้พิทักษ์ทั้งสี่ทิศ จากชั้น จาตุมหาราชิกา เข้ากับนักปรุงแต่ละคน โดยใช้คาแรกเตอร์ของเทพ เป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปของกลิ่นที่ลึกซึ้ง และ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
คอลเลกชันนี้จะวางจำหน่าย ในรูปแบบ Limited Edition เพราะ วัตถุดิบที่เลือกใช้เป็นวัตถุดิบหายาก มีจำนวนจำกัด และ มีราคาสูง การผลิตจึงตั้งใจให้จำกัดจำนวน เพื่อรักษาคุณค่า ความเฉพาะตัว และ ความประณีตในทุกขั้นตอนของการสร้างสรรค์” ณัท กล่าว และเพิ่มเติมว่า
การเปิดตัวคอลเลคชันนี้ ณัท กล่าวว่า ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขับเคลื่อนธุรกิจของ SIAM1928 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างยอดขายไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 70% เมื่อเทียบกับปี 2567
“เรามั่นใจว่ายอดขายในปี 2568 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังจากที่ล่าสุดน้ำหอม “Mekha Aranya” (เมฆาอารัญ) น้ำปรุงไทยแบบร่วมสมัย เชื่อมโยงศาสตร์ และ ผสมผสานความหลากหลายของวัฒนธรรมไทย ผ่านกลิ่นน้ำหอม คว้ารางวัลระดับโลก The Winner ในสาขา Artisan จากเวที Art and Olfaction Awards 2025 จัดขึ้น ณ ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
นับเป็นครั้งแรกที่ผลงาน จากประเทศไทย สามารถคว้ารางวัลในหมวดหลัก ของเวทีระดับนานาชาติ โดยในปีนี้ SIAM1928 เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวจาก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับรางวัล ร่วมกับแบรนด์จาก ไต้หวัน ภายใต้ระบบ Blind Judging ที่กรรมการไม่ทราบชื่อ ผู้เข้าประกวด เพื่อความเป็นกลาง และ บริสุทธิ์ในการตัดสิน”
ณัท ได้กล่าวถึงรางวัลดังกล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับการได้รับรางวัลในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นความภาคภูมิใจให้กับคนไทยแล้ว ยังเป็นเครื่องการันตีว่า น้ำหอมสัญชาติไทย ได้รับการยอมรับในระดับเวทีโลก
และสร้างความมั่นใจให้กับเราในการพัฒนาน้ำหอมในกลุ่มที่เป็น Artisan และ Niche ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดโลก
สร้างแบรนด์ไทยบุกตลาดโลก ตั้งเป้าเติบโต 50-70%
จากรายงานล่าสุดของ Market Report World ระบุว่า ตลาดน้ำหอมประเภท Artisan และ Niche มีมูลค่าราว 2.74 พันล้านดอลลาร์ในปี 2568 และ คาดว่าจะขยายตัวถึง 5.73 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2577
โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8.5% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงกว่าตลาดน้ำหอมโดยรวมที่เติบโตเฉลี่ยราว 5–6% โดยตลาดนี้มีอัตราการเติบโตสูงในกลุ่มประเทศเอเชีย ยุโรป ยุโรปตะวันออก และ สหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ในกลุ่มของ Luxury Niche ซึ่งรวมถึงแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ชัดเจน งาน craft สูง และ ใช้วัตถุดิบพรีเมียม คาดว่ามีมูลค่าถึง 4.28 พันล้านดอลลาร์ในปี 2568 และ คาดว่าจะเติบโตสู่ 11.5 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2576 ที่อัตราการเติบโต 13.2% ต่อปี
โดยปัจจุบันผู้นำตลาดในกลุ่ม Luxury Niche ที่เป็นแบรนด์หลัก ประกอบด้วย Le Labo, Diptyque, Byredo, Creed และ Maison Francis Kurkdjian ถือเป็นผู้ครองส่วนแบ่งสำคัญ โดย Le Labo มีสัดส่วนราว 12.8% และ Diptyque อยู่ที่ประมาณ 11.3%
อย่างไรก็ตาม ตลาด Niche ยังคงเปิดกว้างสำหรับแบรนด์ที่มีจุดยืนชัดเจน มีวัฒนธรรมเฉพาะตัว และสามารถเล่าเรื่องได้ลึกซึ้ง
ซึ่งเป็นจุดที่ SIAM1928 มองว่าแบรนด์จากเอเชียและประเทศไทยมีศักยภาพมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มองหาประสบการณ์ที่มีความหมายมากกว่าสินค้า ณัท กล่าวสรุป
ณัท กล่าวถึงน้ำหอมของ SIAM1928 ว่า เป็นน้ำหอมที่อยู่ในกลุ่ม Artisan และ Niche โดยเริ่มต้นธุรกิจในปี 2562 ด้วยยอดขายที่ 1 ล้านบาท คาดว่าในปี 2568 ยอดขายจะแตะที่ 20 ล้านบาท หรือ เติบโตประมาณ 70% เมื่อเทียบกับปี 2567
โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการขยายตลาดต่างประเทศ การเปิดตัวกลิ่นใหม่ และการได้รับรางวัลระดับนานาชาติ ซึ่งช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์และความเชื่อมั่นในระดับสากล โดยรายได้ 85% มาจากการขายในต่างประเทศ และ 15% มาจากการขายภายในประเทศ
“เรามองว่าแนวโน้มในตลาดเอเชีย และ ยุโรปตะวันออกยังมีโอกาสอีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มที่มองหาน้ำหอมที่มีวัฒนธรรมลึกซึ้งและไม่ซ้ำใคร ในแบบของ Artisan และ Niche ตลาดในต่างประเทศมีความพร้อมมากกว่าสำหรับน้ำหอมในกลุ่มนี้ ทั้งในแง่ของความเข้าใจ ความเปิดกว้าง และกำลังซื้อ ผู้บริโภคในยุโรป สหรัฐฯ หรือญี่ปุ่น มีประสบการณ์กับ Niche Fragrance มานาน จึงสามารถเข้าถึงและให้คุณค่าในรายละเอียดของกลิ่น รวมถึงที่มาทางวัฒนธรรมได้ชัดเจน
ในขณะที่ตลาดไทยยังถือว่าเป็นตลาดที่เพิ่งเริ่มต้นสำหรับน้ำหอมแนวนี้ ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยยังคุ้นชินกับแบรนด์แมส กลิ่นที่ใช้บ่อยในเชิงแฟชั่น หรือกลิ่นที่เน้นความหวานและความคุ้นเคย ซึ่งเราต้องให้ความรู้ความเข้าใจ เพื่อที่จะขยายตลาดในประเทศไทยต่อไป” ณัท กล่าว
SIAM1928 เปิดตัว “จตุมหาราชิกา” บุกตลาดโลก
เปิดขายใน 22 แห่ง 9 ประเทศทั่วโลก
ปัจจุบัน SIAM1928 มีตัวแทนจำหน่ายทั้งรูปแบบออนไลน์และหน้าร้านรวม 22 แห่ง ใน 9 ประเทศทั่วโลก ประกอบด้วย ไทย 5 แห่ง ได้แก่ Rebellion lab and perfume bar /Skonx สาขา เกสร/ Skonx สาขา ทรงวาด/ Thai perfume runway @MBK/ ICONCRAFT @ICON SIAM,
จีน 4 แห่ง SCENTEVER (Shenzhen), Scent Atoll (Shenyang), Fengmingyaxiang (Dongguan), MAISON DES PARFUMS, ไต้หวัน 1 แห่ง Taigrance,
ญี่ปุ่น ขายผ่าน online ที่ Kousekibanri, สหรัฐอเมริกา 7 แห่ง ที่ Stéle (NYC), Lucky Scent, ZGO Perfumery, Glindee, Scent bar DTLA, Hollywood, NYC – 3 สาขา,
ฝรั่งเศส online 1 แห่ง ที่ Periyard, อาบูดาบี, UAE 1 แห่ง ที่ Aroma Avenue, ลิเบีย 1 แห่ง Niche Perfumes LY (Tripoli) และ ฮังการี 1 แห่ง 7scents Parfüméria (Budapest)
สินค้าของเราจะได้รับความนิยมในต่างประเทศ ทำให้ยอดขายในต่างประเทศของเรามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 20–25% ต่อปี จากการยอมรับในกลุ่ม craft fragrance
ซึ่งขณะนี้แบรนด์กำลังอยู่ในขั้นตอนส่งออกไปยังรัสเซีย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มวางขายใน ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า craft fragrance ในรัสเซียซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดใหญ่”
ปัจจุบัน SIAM1928 มีกลุ่มสินค้าหลักคือ น้ำหอมคอลเลกชันถาวร (Core Collection) ที่บรรจุในขวด พอชเลนเคลือบสีขาว ขนาด 60 มิลลิลิตร
ภายในกลุ่มนี้ กลิ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดและถือเป็นตัวหลักของแบรนด์คือ Mekha Aranya และ Karawik สองกลิ่นนี้มีจุดเด่นตรงความเป็นธรรมชาติ ลุ่มลึก และ สามารถสื่อสารเรื่องราววัฒนธรรมไทยผ่านกลิ่นได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอื่นในคอลเลกชัน เช่น Yod Beer, Sadayu, Tipakorn และ Nari Vimala ที่มีฐานลูกค้าชัดเจนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ที่มาของข้อมล : https://siam1928.com/th/about/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : https://bangkokx.me/beauty-15082025/
