BangkokX-Horizontal
ปตท.สผ. ตั้งงบลงทุน ปี 2568 2.61 แสนล้านบาท
PTTEP Set Aside the investment Budget Bt261 billion

ปตท.สผ. ตั้งงบลงทุน ปี 2568 2.61 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนกิจกรรมการสำรวจพัฒนา และเพิ่มอัตราการผลิตปิโตรเลียม รองรับความต้องการใช้พลังงานของภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน รวมทั้ง ลดภาระการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ

มนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปี 2568 ปตท.สผ. ได้ตั้งงบลงทุน ปี 2568 ไว้ที่  261,940 ล้านบาท (เทียบเท่า 7,819 ล้านดอลลาร์ สรอ.)

โดยงบประมาณดังกล่าวส่วนใหญ่มาจากกระแสเงินสดตามผลกำไรในปีที่ผ่านมา เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนกิจกรรมการสำรวจพัฒนา และเพิ่มอัตราการผลิตปิโตรเลียม รองรับความต้องการใช้พลังงานของภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน รวมทั้ง ลดภาระการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ

ปตท.สผ. ตั้งงบลงทุน ปี 2568 2.61 แสนล้านบาท
มนตรี ลาวัลย์ชัยกุล

 โดย ปตท.สผ. จะนำงบประมาณไปใช้ในการดำเนินแผนงาน ในการรักษา และ การเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย จากโครงการ G1/61 โครงการ G2/61 โครงการอาทิตย์ โครงการเอส 1 โครงการคอนแทร็ค 4 และ โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเร่งพัฒนา กลุ่มโครงการสำรวจในประเทศมาเลเซีย (Malaysia Greenfields) โครงการในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  และ โมซัมบิก ให้สามารถเริ่มการผลิตได้ตามแผน  ไปพร้อมกับแผนงานเร่งการสำรวจในประเทศไทย และ มาเลเซีย

รวมถึง การดำเนินโครงการ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังได้ สำรองงบประมาณสำหรับ การขยายการลงทุน ในธุรกิจใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่าน ด้านพลังงาน เช่น พลังงานลมนอกชายฝั่ง และเชื้อเพลิงไฮโดรเจน เป็นต้น เพื่อเสริมสร้างความมั่นคง ทางพลังงาน ให้กับประเทศ และ สร้างการเติบโตให้กับบริษัทในระยะยาว

ปี 2567 กำไร 78,824.24 ล้านบาท เติบโต 2.76% จากปี 2566

ในขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2567 มนตรี กล่าวว่า บริษัทมีความก้าวหน้าสำคัญ ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในและ ต่างประเทศ โดยสามารถเพิ่ม อัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติ จากอ่าวไทยในโครงการ G1/61 (แหล่งเอราวัณ ปลาทอง สตูล และฟูนาน) ขึ้นมาสู่ระดับ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และ ยังคงรักษากำลังการผลิตของโครงการอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ การขยายการลงทุน ในต่างประเทศ ปตท.สผ. ได้เข้าซื้อ สัดส่วนการลงทุน 10% ในโครงการสัมปทานกาชา (Ghasha Concession Project) ซึ่งเป็นหนึ่งใ นแหล่งก๊าซธรรมชาติ นอกชายฝั่ง ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยมีแผนจะ เริ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติ ในปี 2568

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับ อนุมัติแผนพัฒนา โครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 เมื่อ เดือนกันยายน ในปีที่ผ่านมา จากหน่วยงานรัฐ ของ อาบูดาบี แล้ว โดยคาดว่า จะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ในปีนี้

นอกจากนี้ ปตท.สผ. ยังได้เข้าซื้อหุ้นทุน (Share Capital) ในสัดส่วน 34% ใน บริษัท E&E Algeria Touat B.V. คาดว่า การซื้อขาย จะเสร็จสิ้นในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ ปตท.สผ. ถือสัดส่วนการลงทุน ทางอ้อม ในโครงการทูอัท (Touat Project) ที่ 22.1%

โครงการนี้ เป็น โครงการ ผลิตก๊าซธรรมชาติ บนบก ในประเทศ แอลจีเรีย มีกำลังการผลิต ก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 435 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และ จะสามารถเพิ่มรายได้ ปริมาณการขาย และ ปริมาณสำรองปิโตรเลียม ให้กับ บริษัท ได้ทันที เมื่อการซื้อขายเสร็จสิ้น

ปตท.สผ. ตั้งงบลงทุน ปี 2568 ขับเคลื่อนด้วย “เทคโนโลยีดิจิทัล”

ด้านการขับเคลื่อนองค์กรด้วย เทคโนโลยีดิจิทัล ปตท.สผ. ได้พัฒนา โครงการ DigitalX ซึ่งเป็น การพัฒนา และ ประยุกต์ ใช้นวัตกรรมดิจิทัล (Digital Solutions) เช่น เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning (ML) ที่มี ประสิทธิภาพ ในการวิเคราะห์ และ ประมวลผลข้อมูล ของห่วงโซ่ธุรกิจ อย่างครบวงจร

เพื่อสนับสนุน การดำเนินงาน ด้านการสำรวจ และ ผลิตปิโตรเลียม ได้อย่างรวดเร็ว และ แม่นยำ อีกทั้ง บริษัทยังได้เริ่มพัฒนา และ ปรับปรุงระบบ ฐานข้อมูล (Data Foundation) ให้สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ทั้งองค์กร  โดยมีมาตรฐานเดียวกัน

พร้อมกับได้พัฒนา X.brain ซึ่งเป็น AI Engine ที่สามารถเรียนรู้ และ พัฒนาตนเองได้ เพื่อนำมาช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานของบุคลากร ให้สำเร็จ ตามเป้าหมาย อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญ กับ การพัฒนาบุคลากร ทุกระดับชั้น ภายในองค์กร ให้มีความพร้อม และ มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล อย่างเต็มศักยภาพ (Digital Citizens) เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพ การทำงาน ด้านต่างๆ ส่งเสริม ความคิดสร้างสรรค์ และ ลดระยะเวลาการทำงาน ลงอย่างมีนัยสำคัญ

ตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจก เป็น “ศูนย์” ปี 2593

ในด้านการดำเนินงาน เพื่อเป้าหมาย การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ เป็นศูนย์ ภายในปี 2593 (Net Zero Greenhouse Gas Emissions by 2050) นั้น ปตท.สผ. สามารถลดปริมาณการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกสะสม ตั้งแต่ปี 2563 ได้ประมาณ 4.08 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ผ่านการจัดทำ โครงการลดก๊าซเรือนกระจกต่าง ๆ เช่น

การนำก๊าซส่วนเกิน จากกระบวนการผลิตปิโตรเลียม กลับมาใช้ใหม่ การปรับปรุงกระบวนการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้พลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียน และ การคัดเลือกโครงการที่มี ความเข้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ เข้ามาใน Portfolio เป็นต้น

รวมทั้ง ยังได้ร่วมฟื้นฟู พื้นที่สีเขียวกับภาครัฐ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่ป่า  200,000 ไร่ ภายในปี 2573 เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ในปี 2567 ที่ผ่านมา ปตท.สผ. ได้นำส่งรายได้ให้กับ รัฐในรูปของภาษีเงินได้ ค่าภาคหลวง และส่วนแบ่งผลประโยชน์อื่น ๆ  จำนวน 50,450 ล้านบาท เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง ในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ เช่น

การพัฒนาชุมชน การศึกษา และการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐยังได้รับส่วนแบ่งของผลผลิตปิโตรเลียมจากโครงการ G1/61 และ G2/61 ซึ่งอยู่ภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC)  เป็น รายได้ทางตรง จากการผลิตปิโตรเลียมที่รัฐ นำมาใช้ประโยชน์ ในการพัฒนาประเทศ อีกส่วนหนึ่งด้วย

จากการดำเนินดังกล่าว ทำให้ในปี 2567 ปตท.สผ. มีรายได้รวม 327,415 ล้านบาท  (เทียบเท่า 9,273 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.)) มีกำไรสุทธิ  78,824.24 ล้านบาท เติบโต 2.76% จากปี 2566

โดยมีปริมาณขาย ปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 488,794 บาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้น  6%  เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มกำลังการผลิตปิโตรเลียมของโครงการ G1/61 ขณะที่ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยอยู่ที่46.78 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ปรับตัว ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ในตลาดโลก

จ่ายเงินปันผลปี 2567 ที่ 9.625 บาทต่อหุ้น 

จากผลการดำเนินการในปี 2567 คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติ จ่ายเงินปันผล สำหรับปี 2567 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ที่ 9.625 บาทต่อหุ้น คิดเป็น อัตราการจ่ายเงินปันผล ต่อ กำไรสุทธิที่ 49% รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 38,211 ล้านบาท

โดยบริษัท ได้จ่ายสำหรับ งวด 6 เดือนแรก ไปแล้วในอัตรา 4.50 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ส่วนที่เหลืออีก 5.125 บาทต่อหุ้น จะจ่าย ในวันที่ 22 เมษายน 2568

ภายหลัง ได้รับการอนุมัติ จากที่ ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2568  ซึ่งส่วนหนึ่งของ เงินปันผลดังกล่าว จะถูกนำส่งให้ กระทรวงการคลัง ผ่านการถือหุ้น ในบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ของ ปตท.สผ. เพื่อการพัฒนาประเทศอีกส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน

 

ที่มาของข้อมูล: https://www.pttep.com/th/investor-relations/financial-performance/financial-highlights

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: https://bangkokx.me/pcb-investment-040024/

Ellipse 1
กองบรรณาธิการ Bangkok X

บทความที่เกี่ยวข้อง