
อสังหาฯ ไตรมาสแรก 68 รายได้-กำไร ทรุด 21.04% และ 47.63% ตามลำดับ “เอพี” ขึ้นแท่นอันดับ 1ทั้งรายได้ กำไร “แสนสิริ” สินค้าคงเหลือและอยู่ระหว่างการพัฒนา สูงสุด ที่ 99,990.96 ล้านบาท
บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัท วิจัย และ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในเครือ บริษัท แอล พี เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) รายงานการรวบรวมผลการดำเนินงานของ 38 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ สรุปว่า ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 สรุปว่า
รายได้รวมของทั้ง 38 บริษัทอสังหาฯ มีมูลค่ารวม 56,134.39 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 2,860.15ล้านบาท ลดลง 21.04% และ 47.63% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับรายได้รวม และกำไรสุทธิ ของ 38 บริษัทอสังหาฯ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ใน ไตรมาสแรก ปี 2567 ที่มีมูลค่ารวม 71,094.20 ล้านบาท และกำไรสุทธิรวม 5,462.47 ล้านบาท
อสังหาฯ ไตรมาสแรก 68 รายได้-กำไร ทรุด
10 บริษัทรายได้สูงสุด กินส่วนแบ่งรายได้ 70.77%
อย่างไรก็ตาม รายได้รวมของ 10 บริษัทที่มีรายได้สูงสุด อยู่ที่ 39,731.58 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 70.77% ของรายได้รวมทั้ง 38 บริษัท ขณะที่กำไรสุทธิของบริษัท 10 อันดับแรกที่มีกำไรสูงสุดมีมูลค่ารวม 3,584.59 ล้านบาท สูงกว่ากำไรสุทธิรวมของ 38 บริษัท เนื่องจาก มีบริษัทที่ ขาดทุนสุทธิทั้งสิ้น 19 บริษัทจาก 38 บริษัท
จากการชี้แจงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่รายได้และกำไรลดลง เป็นผลมาจากมีการโอนกรรสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจำนวนมากในไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ก่อนที่มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองจะหมด ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2567
ทำให้ยอดขายและรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2568 ชะลอตัว เนื่องจากผู้ซื้อที่อยู่อาศัย ชะลอการซื้อ เพื่อรอการต่ออายุมาตรการการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง จากภาครัฐ ขณะที่ความไม่แน่นอนและความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่กระทบกับเศรษฐกิจไทย ส่งผลให้ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ชะลอการตัดสินใจซื้อในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568
จากรายได้และกำไรที่ลดลงทำให้ ความสามารถในการทำกำไรเฉลี่ยของ 38 บริษัท อยู่ที่ 5.09 % ในไตรมาสแรกของปี 2568 ลดลงจาก 7.68% ในไตรมาสแรก ของปี 2567
ขณะที่ สินค้าคงเหลือ บวกกับสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาของบริษัทอสังหาฯ ทั้ง 38 บริษัท ไตรมาสแรกปี 2568 อยู่ที่ 718,904.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก สินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ณ สิ้นปี 2567 ที่ อยู่ที่ 716,560.50 ล้านบาท
โดย บริษัท แสนสิริ มีสินค้าคงเหลือและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างสูงสุดที่ 99,960.96 ล้านบาท
ขณะที่ บริษัท เอพี (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) มีรายได้และกำไรสูงสุดที่ 7,758.80 ลบ. และ 863.72 ลบ. ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด คาดว่า ตลาดอสังหาฯ ในช่วง 9 เดือนหลังปี 2568 มีแนวโน้มฟื้นตัวจากมาตรการผ่อนคลาย LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย และ การขยายเวลาลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองลงมาอยู่ที่ 0.01% ที่มีผลถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569
ที่มาของข้อมูล : www.set.or.th
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : https://bangkokx.me/property-earth-01042025/
