อสังหาฯ ครึ่งปีแรก 2568 เปิดตัวใหม่ลดลง 54%
"อสังหาฯ" ขานรับมาตรการ กระตุ้น ภาคอสังหาฯ

อสังหาฯ ครึ่งปีแรก 2568 เปิดตัวใหม่ลดลง 54% คาดทั้งปี การเปิดตัวโครงการใหม่จะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2567

ผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบมาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกา กำลังซื้อภายในประเทศชะลอตัวลง สถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มลดลง และมีมาตรการผ่อนคลาย LTV และ ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองอยู่ที่ 0.01% ก็ตาม

ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวถึง แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ว่า ยังคงมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกของปี ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว เป็นผลมาจากมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีการประกาศขึ้นภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย

“การที่เศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโตที่ต่ำ ทำให้รายได้และกำลังซื้อของประชากรลดลง ผนวกกับสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดกับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อทั้งสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ไปจนถึงสินเชื่ออุปโภคและบริโภค ส่งผลกระทบโดยตรงกับกำลังซื้อที่อยู่อาศัย

ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยภายในประเทศจะมีแนวโน้มลดลง และมีมาตรการผ่อนคลาย อัตราส่วนการให้สินเชื่อซื้อบ้านโดยเทียบกับมูลค่า(Loan to Value: LTV) รวมทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง มาอยู่ที่ 0.01% ก็ยังไม่สามารถที่จะกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับคืนมาได้ เพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังกังวลรายได้ในอนาคต ทำให้ชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ที่เป็นภาระหนี้ระยะยาวออกไปก่อน” ประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้คาดว่า ปี 2568 จะมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ลดลงทั้งมูลค่าและจำนวน เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จะชะลอแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการเปิดตัวโครงการใหม่แล้วจะขายไม่ได้ตามแผน แต่ต้องใช้เงินลงทุนสูง

ไปมุ่งเน้นที่การเร่งระบายสินค้าคงเหลือที่ยังคงมีอยู่เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และ ลดภาระดอกเบี้ยจ่ายในการถือครองทรัพย์สินแทน ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวสะท้อนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ที่ปรับตัวลดลงทั้งจำนวนโครงการ จำนวนหน่วย และ มูลค่าการเปิดตัวโครงการคิดเป็นสัดส่วน 42%, 54% และ 46% ตามลำดับเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2567 ประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

อสังหาฯ ครึ่งแรกปี 2568 ลดลง 54%
ประพันธ์ศักดิ์​ รักษ์ไชยวรรณ

อสังหาฯ ครึ่งปีแรก 2568 เปิดตัวใหม่ลดลง 54%

จากผลการสำรวจการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ของ บริษัท แอล. ดับเบิลยู. เอส.ฯ พบว่า มีจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 (มกราคม-มิถุนายน 2568) ทั้งสิ้น 104 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วยเปิดตัวทั้งสิ้น 14,942 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 109,220 ล้านบาท ลดลง 42%, 54%, และ 46% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับจำนวนการเปิดตัวโครงการ 182 โครงการ จำนวน 32,675 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 201,517 ล้านบาท ในระยะเดียวกันของปี 2567

โดยเป็นการเปิดตัวโครงการอาคารชุดพักอาศัยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จำนวน 23 โครงการ จำนวน 7,393 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 22,956 ล้านบาท ลดลง 30%, 45% และ 56% ตามลำดับ จากจำนวนโครงการเปิดใหม่ 33 โครงการ จำนวน 13,377 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 51,802 ล้านบาท ในระยะเดียวกันของปี 2567

ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของห้องชุดที่เปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 3.10 ล้านบาทต่อหน่วย ลดลง  20% จากราคาขายเฉลี่ยของห้องชุดที่เปิดตัวในระยะเดียวกันของปี 2567 ที่มีราคาขายเฉลี่ยที่ 3.87 ล้านบาทต่อหน่วย

ในขณะที่การเปิดตัวบ้านพักอาศัยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 81 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วยเปิดตัวทั้งสิ้น 7,549 หน่วย คิดเป็นมูลค่าการเปิดตัวรวม 86,264 ล้านบาท ลดลง 46%, 61%, และ 42% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่ 149 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วยเปิดตัว 19,298 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 149,715 ล้านบาท ในระยะเดียวกันของปี 2567

โดยที่ราคาขายเฉลี่ยของบ้านพักอาศัยที่เปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 11.42 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของบ้านพักอาศัยที่เปิดตัวใหม่ในข่วงครึ่งแรกของปี 2567 ที่อยู่ที่ 7.75 ล้านบาทต่อหน่วย

เนื่องจากในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 มีการเปิดตัวบ้านพรีเมี่ยมที่ระดับราคาเกิน 10 ล้านบาทต่อหน่วย ในมูลค่าที่สูงขึ้นมากกว่าระยะเดียวกันของปี 2567

อสังหาฯ ครึ่งแรกปี 2568 ลดลง 54%

จากผลการสำรวจของ แอล. ดับเบิลยู. เอส.ฯ พบว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 มีการเปิดตัวบ้านระดับพรีเมี่ยม ที่ราคาเกิน 10 ล้านบาท จำนวน 48 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วย 2,690 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 63,444 ล้านบาท ลดลง 9.4%, 26%, และ 22% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับ จำนวนการเปิดตัวโครงการ 53 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วยเปิดตัว 3,656 หน่วย คิดเป็นมูลค่าการเปิดตัว 80,892 ล้านบาท ในระยะเดียวกันของปี 2567

โดยที่ราคาขายเฉลี่ยของบ้านพรีเมี่ยมในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 23.58 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 6.6% จากราคาขายเฉลี่ยของบ้านพรีเมี่ยมในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ที่มีราคาขายเฉลี่ยที่ 22.12 ล้านบาทต่อหน่วย

ในขณะที่มีการเปิดตัวบ้านพักอาศัยในระดับราคาที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อหน่วยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จำนวน 33 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วยเปิดตัวทั้งสิ้น 4,859 หน่วย คิดเป็นมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ 22,820 ล้านบาท ลดลง 66%, 69%, และ 67% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับจำนวนโครงการที่เปิดตัว 96 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วยเปิดตัวใหม่ 15,642 หน่วย คิดเป็นมูลค่าการเปิดตัวใหม่รวม 68,823 ล้านบาท ในระยะเดียวกันของปี 2567

โดยที่ราคาขายเฉลี่ยของบ้านพักอาศัยระดับราคาที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 4.69 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 6.83% จาก ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยที่ 4.39 ล้านบาทต่อหน่วย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567

 

หลักสี่-แบริ่ง-สาธุประดิษฐ์ กำลังซื้อสูง

 

ส่วนทำเลที่มีกำลังซื้อสูง จากผลการสำรวจของ แอล.ดับเบิลยู.เอส.ฯ พบว่า สำหรับอาคารชุดพักอาศัยที่เปิดตัวใหม่ในช่วงไตรมาสสองของปี 2568 โครงการในทำเลหลักสี่-แจ้งวัฒนะ มีกำลังซื้อสูง

โดยโครงการอาคารชุดที่เปิดตัวในทำเลดังกล่าวมียอดขาย ณ วันเปิดตัวสูงถึง 40% จากจำนวนหน่วยที่เปิดขาย 328 หน่วย ตามมาด้วยทำเลติวานนท์ ที่มียอดขาย ณ วันเปิดตัวที่ 30% จากจำนวนหน่วยเปิดตัว 154 หน่วย

ในขณะที่ทำเลที่ขายดีสำหรับบ้านพักอาศัยที่ราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท ที่เปิดตัวในช่วงไตรมาสสองของปี 2568 ได้แก่ ทำเล แบริ่ง-วัดด่าน ที่ขายได้ 51 หน่วย ณ วันเปิดตัว จากจำนวนหน่วยเปิดตัวทั้งสิ้น 222 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 23%ของจำนวนหน่วยเปิดตัวทั้งหมดในทำเลนี้

ตามมาด้วย ปทุมธานี โดยสามารถขายได้ 49 หน่วย จากจำนวนหน่วยเปิดตัว 288 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 17% ของหน่วยเปิดตัวทั้งหมดในทำเลนี้

สำหรับบ้านที่ระดับราคาเกิน 10 ล้านบาท ทำเลวงแหวน-บางนา มีจำนวนหน่วยที่ขาย ณ วันเปิดตัวได้สูงสุดในช่วงไตรมาสสองของปี 2568 โดยมีจำนวนหน่วยที่ขายได้ 23 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 30% จากจำนวนหน่วยที่เปิดขาย 76 หน่วย เป็นบ้านแบบบ้านแฝด ที่ระดับราคา 10-30 ล้านบาทต่อหน่วย

ตามมาด้วย ทำเลสาธุประดิษฐ์ ที่สามารถขายได้ 20 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 45% ของจำนวนหน่วยเปิดตัว 44 หน่วย โดยเป็นบ้านในแบบทาวน์เฮ้าส์ ระดับราคา 10-30 ล้านบาท บ้านแฝดและบ้านเดี่ยวที่ระดับราคามากกว่า 50 ล้านบาท

“โดยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 การเปิดตัวโครงการใหม่ชะลอตัวลงด้วยปัจจัยหลายประการทั้งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมไปถึงสถานการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชะลอแผนการเปิดตัวโครงการในช่วงไตรมาสสองของปี โดยไม่มีการเปิดตัวโครงการอาคารชุดใหม่เลยในเดือนเมษายน หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว

และเริ่มกลับมาเปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนพฤษภาคม และ มิถุนายน ถึงแม้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จะเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 แต่โดยภาพรวมแล้วในปี 2568 การเปิดตัวโครงการใหม่มีแนวโน้มที่จะน้อยกว่า ปี 2567 หรือไม่ก็ใกล้เคียงกับปี 2567” ประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : https://bangkokx.me/pf-3-30072025/

ที่มาของข้อมูล : www.lws.co.th

[addtoany]
Ellipse 1
กองบรรณาธิการ Bangkok X