“ฮอนด้า” ปรับกลยุทธ์ รุก รถยนต์ไฮบริด
“ฮอนด้า” ปรับกลยุทธ์ รุก รถยนต์ไฮบริด

“ฮอนด้า” ปรับกลยุทธ์ รุก รถยนต์ไฮบริด หลัง ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า มีแนวโน้มชะลอตัว พร้อม ลดงบลงทุนจาก 10 ล้านล้านเยน เหลือ 7 ล้านล้านเยน ปี 2574

โทชิฮิโระ มิเบะ ผู้อำนวยการ ประธานกรรมการบริหาร และ ตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด แถลงแผนธุรกิจของบริษัท ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 21พฤษภาคม 2568 ว่า ฮอนด้า ปรับกลยุทธ์ในการผลิตรถยนต์ โดยให้ความสำคัญ กับการพัฒนา รถยนต์ไฮบริด หลังจากที่ สถานการณ์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า มีความไม่แน่นอน และ มีแนวโน้มลดลง ซึ่งมาจากหลายปัจจัย

รวมถึง การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม ที่เป็นพื้นฐาน สำหรับการนำรถยนต์ไฟฟ้า มาใช้งานอย่างแพร่หลาย ตลอดจน การเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการค้า ของประเทศต่าง ๆ ฮอนด้า จึงจำเป็นต้องสร้างคุณค่าใหม่ให้แก่ลูกค้า เพื่อรักษาความสามารถ ในการแข่งขัน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ผันผวน และ ไม่ใช่เพียงเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า

แต่ยังผนวกการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงด้วย เพื่อนำเสนอคุณค่าเหล่านั้นไปยังลูกค้าในวงกว้างได้มากยิ่งขึ้น พร้อมเข้าถึงได้ง่ายและจับต้องได้

โดย ฮอนด้า จะปรับกลยุทธ์ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ 2 ทิศทาง คือ

1.เพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ รถยนต์ไฮบริด (HEV) ผ่านการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอัจฉริยะ

2.เสริมรากฐานธุรกิจ ให้แข็งแกร่ง ผ่านการปรับพอร์ตโฟลิโอ ด้านระบบขับเคลื่อนใหม่ อีกทั้ง เตรียมพัฒนาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ (ADAS) เจเนอเรชันใหม่ พร้อมผนวก ความร่วมมือกับ พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ

รวมถึง ปรับแผนเปิดตัวรถใหม่ เนื่องด้วย การชะลอตัวของตลาด EV ทั่วโลก ที่ส่งผลให้ เป้าหมายสัดส่วนยอดขาย EV ทั่วโลกของ ฮอนด้า ในปี พ.ศ. 2573 อาจต่ำกว่า เป้าหมาย 30% จากที่เคย คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า

โดยนับจากนี้ จะเน้นขุมพลังไฮบริด เป็นหลัก ในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ ยุคยานยนต์ไฟฟ้า อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะ รถยนต์ไฮบริด (HEV) เจเนอเรชันใหม่ ที่จะเปิดตัว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2570 เป็นต้นไป

พร้อมเร่งขยาย ไลน์อัปไฮบริด อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการปรับแนวทางนี้ ฮอนด้า ตั้งเป้าที่จะเพิ่ม ยอดขายในปี พ.ศ. 2573 ให้มากกว่า ระดับปัจจุบันที่ 3.6 ล้านคัน โดยมี เป้าหลักอยู่ที่ ยอดขายรถยนต์ไฮบริด (HEV) ที่ 2.2 ล้านคัน

“ฮอนด้า” ปรับกลยุทธ์ รุก รถยนต์ไฮบริด

ลดงบลงทุน เหลือ 7 ล้านล้านเยน

 

ตามแผนกลยุทธ์ ดังกล่าว มิเบะ กล่าวว่า  ฮอนด้า คาดการณ์ว่า จะเพิ่มผลกำไรของบริษัทฯ ภายในปี พ.ศ. 2573 ด้วยแนวทางดังนี้

  • การขยายธุรกิจรถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่อง
  • การลดต้นทุน ในธุรกิจยานยนต์ ที่เกี่ยวเนื่อง กับ การปรับใช้ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เจเนอเรชันใหม่และแพลตฟอร์มใหม่
  • การเพิ่ม ยอดขายต่อหน่วย ของรถไฮบริด (HEV) และ จะยังคงมุ่งหน้าต่อไป เพื่อบรรลุเป้าหมาย ROIC (Return on Invested Capital) ของ บริษัทที่ 10% สำหรับ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2574 (ปีงบประมาณ สิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2574)
  • สำหรับ แผนการลงทุน ในกลยุทธ์ด้าน EV ที่ประกาศไว้ เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งมี มูลค่า 10 ล้านล้านเยน ฮอนด้า ได้ปรับลด วงเงินลงทุนลง 3 ล้านล้านเยน เหลือ 7 ล้านล้านเยน ภายใน ปีงบประมาณ พ.ศ.2574 (ปีงบประมาณที่สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. พ.ศ. 2574)
  • โดยเป็นผลจาก การตัดสินใจ เลื่อนโครงการสร้าง value chain สำหรับ EV แบบครบวงจร ในประเทศ แคนาดา รวมถึง การยืดเวลา ในการสร้างโรงงาน ที่จะผลิต EV เฉพาะ ออกไปก่อน
  • สำหรับ การเปลี่ยนแปลง การจัดสรรเงินทุนในช่วง 5 ปี นับจากปีงบประมาณ 2570เป็นต้นไป ฮอนด้า มีเป้าหมายใน การสร้าง กระแสเงินสด รวมมากกว่า 12 ล้านล้านเยน
  • โดยผสมผสาน ศักยภาพ ในการสร้างเงินสด อย่างมั่นคง จาก ธุรกิจรถจักรยานยนต์ ควบคู่กับ การเพิ่มยอดขาย รถยนต์ไฟฟ้าต่อหน่วย สำหรับ การจัดสรรทรัพยากร จนถึง ปีงบประมาณ 2574
  • ลดการลงทุน ที่เกี่ยวข้องกับ EV ลง 3 ล้านล้านเยน โดยฮอนด้า คาดว่า จะเพิ่มการลงทุน ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจ รถยนต์ไฮบริด (HEV) เพียงเล็กน้อย โดยในส่วนของ ผลตอบแทน แก่ผู้ถือหุ้น ฮอนด้า จะยังคงรักษาเป้าหมาย ที่ประกาศ ไว้ก่อนหน้านี้
  • และมุ่งมั่นให้ได้ผลกำไรให้มากกว่า 6 ล้านล้านเยน มิเบะ กล่าว

ที่มาของข้อมูล : www.honda.co.jp

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : https://bangkokx.me/digital-investment-16-11-2023/

[addtoany]
Ellipse 1
กองบรรณาธิการ Bangkok X