ตลาดหุ้นทั่วโลกตกต่อเนื่องหลังจากที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ผนวกกับคำเตือนจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในอนาคต

สำนักข่าวเอพี รายงานการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเซียวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ระบุว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเซียมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาตลอดสัปดาห์เป็นผลมาจากการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น ผนวกกับการเตือนจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ Jerome Powell ว่าถึงแม้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในปัจจุบันจะอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ(อัตราดอกเบี้ยที่ 5-5.25%) แต่ยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นต่อไปได้อีก ส่งผลให้นักลงทุนเคลื่อนย้ายเงินลงทุนจากภูมิภาคเอเซียไปสหรัฐอเมริกา โดยดัชนี Hang Seng ในฮ่องกงร่วงลง 1.7% สู่ 17,211.76 จุด และดัชนี Shanghai Composite ร่วงลง 0.6% สู่ 3,033.73 จุด S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียร่วงลง 0.6% สู่ 6,976.50 ดัชนี Nikkei 225 ของโตเกียวลดลง 0.4% สู่ 32,533.12 Taiex ของไต้หวันร่วง 0.4% และ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ของไทย  SET Index ปรับตัวลดลง 1.10% ติดลบ 15.40 จุด ปิดที่ 1,389.57 จุด โดยนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,384.79 ล้านบาท

ในขณะที่ ดัชนี S&P 500 ที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ในวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ได้ร่วงลง 0.8% ปิดที่ 4,347.35 ทำให้ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 0.6% สู่ 33,891.94 และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.9% สู่ 13,521.45 เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังเพิ่มขึ้นตามรายงานที่ชี้ให้เห็นว่าตลาดงานในสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยในการขายพันธบัตรกระทรวงการคลังมูลค่า 24 พันล้านดอลลาร์ ยังคงสูงขึ้นโดย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.62% ในช่วงเช้าวันศุกร์ จาก 4.50% ช่วงปลายวันพุธที่ผ่านมา ผนวกกับการที่ Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ “จะไม่ลังเล” ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ถ้าสหรัฐฯ ยังไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้

ในขณะที่ตลาดน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยจากการขาดทุนครั้งใหญ่จากช่วงต้นสัปดาห์ โดยน้ำมันดิบสหรัฐมาตรฐานหนึ่งบาร์เรลเพิ่มขึ้น 35 เซนต์เป็น 76.09 ดอลลาร์ในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ใน New York Mercantile Exchange ราคาเพิ่มขึ้น 41 เซนต์ ปิดที่ 75.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันพฤหัสบดี น้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ สู่ 80.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล