นายกสมาคมวิศวกรฯ ระบุ ต้องตรวจสอบ “อาคาร” ก่อนเข้าพักอาศัย หลังแผ่นดินไหว
นายกสมาคมวิศวกรฯ ระบุ ต้องตรวจสอบ “อาคาร”

นายกสมาคมวิศวกรฯ ระบุ ต้องตรวจสอบ “อาคาร” ก่อนเข้าพักอาศัย  หลังแผ่นดินไหว ขนาด 8.2 แมกนิจูด จากรอยเลื่อนสะกาย ประเทศเมียนมาร์ จนทำให้อาคารหลายแห่งมีรอยร้าว  

ศ.ดร. อมร พิมานมาศ นักวิจัยจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)และนายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย  ให้ความเห็น เกี่ยวกับ แผ่นดินไหว ขนาด 8.2 แมกนิจูด จากรอยเลื่อนสะกาย ประเทศเมียนมาร์ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.20 น. ว่า  แผ่นดินไหวในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อหลายอาคาร ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

จนทำให้อาคารบางแห่ง อาจเกิดการแตกร้าว หรือ เสียหายได้ และ ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ตามมาคือ Aftershock หรือ แรงสั่นสะเทือน ที่ตามมา ซึ่งอาจสร้างความเสี่ยง ให้กับอาคาร ที่ไม่ได้รับการออกแบบให้ต้านทานแผ่นดินไหว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาคารเก่าที่สร้างก่อน ปี 2550 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ประเทศไทย ยังไม่มีการบังคับใช้กฎกระทรวงแผ่นดินไหว ปี 2550 ที่กำหนดให้ทุกอาคาร ในพื้นที่เสี่ยง ต้องมีการออกแบบ ให้สามารถต้านทานแผ่นดินไหวได้ การออกแบบเหล่านี้ จะช่วยลด ความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้นจาก แผ่นดินไหว

แต่ที่สำคัญ ก็คือว่า อาคารเก่า ที่ไม่ได้รับการออกแบบ เช่นนี้ อาจจะมี ความเสี่ยงมากกว่า

นายกสมาคมวิศวกรฯ ระบุ ต้องตรวจสอบ “อาคาร”
ศ.ดร. อมร พิมานมาศ

ศ.ดร. อมร กล่าว เพิ่มเติมว่า การตรวจสอบ อาคาร หลังเกิด เหตุการณ์ แผ่นดินไหว จึงเป็นสิ่งที่ ไม่สามารถมองข้ามได้ ทั้งใน ด้านความเสียหาย ของโครงสร้าง และ ความปลอดภัย ของ ผู้อยู่อาศัย

นอกจากนี้ มาตรการ การออกแบบอาคาร ในปัจจุบัน ได้มี การปรับปรุง และ กำหนดมาตรฐานใหม่ ใน กฎกระทรวง แผ่นดินไหว ปี 2564 ซึ่งมุ่งมั่น ให้ทุกอาคารในกรุงเทพฯ รวมถึง เมืองใหญ่ๆ ที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหว จะต้อง ออกแบบ เพื่อทนทานต่อ แรงสั่นสะเทือนได้

แต่ก็ต้อง ยอมรับว่า จำนวนอาคาร ที่ได้รับการออกแบบ ตามกฎใหม่ นั้นยังค่อนข้างน้อย

สำหรับ อาคารที่สั่นไหวรุนแรง จะต้องตรวจ ความเสียหายทาง โครงสร้างของอาคารด้วย ว่า เสียหายมากน้อยเพียงใด

สภาพอาคารหลังแผ่นดินไหว
สภาพอาคารหลายแห่งหลังแผ่นดินไหว

นายกสมาคมวิศวกรฯ ระบุ ต้องตรวจสอบ “อาคาร”

ขณะที่ สมาคมประกันวินาศภัย ระบุ เคลมประกันได้ ถ้ามีในสัญญาฯ 

นอกจาก การตรวจสอบ เรื่อง ความปลอดภัยของอาคาร ในการเข้าใช้ ภายหลังเหตุการณ์ แผ่นดินไหวแล้ว สมาคมประกันวินาศภัย  ได้ให้คำแนะนำ สำหรับ เจ้าของอาคาร และ ห้องชุด ว่า

ให้ เจ้าของอาคาร และ เจ้าของห้องชุด ตรวจสอบสัญญา กรมธรรม์ประกันภัย ของห้องชุด หรือ บ้านพักอาศัย ว่ามี กรมธรรม์ของตัวเอง มีความคุ้มครองเรื่อง ของแผ่นดินไหว หรือไม่

จากรายงานของ สมาคมประกันวินาศภัย ระบุว่า มี 5 กรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองภัยจากแผ่นดินไหว ได้แก่

  1. กรมธรรม์ประกันภัย รถยนต์ ให้ความคุ้มครอง ความเสียหาย จากภัยแผ่นดินไหว เฉพาะ กรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 หรือ กรมธรรม์ประเภท 2+ / 3+ (เฉพาะ กรมธรรม์ ที่ขยายความคุ้มครอง ความเสียหาย จากภัยธรรมชาติ เท่านั้น)
  2. กรมธรรม์ประกัน อัคคีภัย สำหรับที่อยู่อาศัยใ ห้ความคุ้มครอง ความเสียหาย จาก ภัยแผ่นดินไหว
  3. กรมธรรม์ประกัน อัคคีภัย จะให้ความคุ้มครอง ความเสียหาย จาก ภัยแผ่นดินไหว เฉพาะ กรมธรรม์ ที่ซื้อ ความคุ้มครองภัย แผ่นดินไหว เพิ่มเติม เท่านั้น
  4. กรมธรรม์ประกันภัย ความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (Industrial All Risk: IAR)ให้ ความคุ้มครอง ความเสียหาย จาก ภัยแผ่นดินไหว
  5. กรมธรรม์ประกันภัย การปฏิบัติงาน ตามสัญญา การก่อสร้าง (Contract Work Insurance: CWI) ให้ความคุ้มครอง ความเสียหาย จาก ภัยแผ่นดินไหว

    ดังนั้น ถ้าห้องชุด หรือ บ้านพักอาศัย มีความคุ้มครอง ให้รีบแจ้ง ความเสียหาย แก่ บริษัทประกันภัย ทันที เพื่อประโยชน์ ในการชดใช้ ค่าสินไหมทดแทน ได้อย่างรวดเร็ว

ที่มาของข้อมูล : https://www.tsea.or.th

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : https://bangkokx.me/homebuilder-market-18032025/

[addtoany]
Ellipse 1
กองบรรณาธิการ Bangkok X