
กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมออกกฏระเบียบให้ใบอนุญาตสถาบันการเงินต่างประเทศจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา(Virtual Banking) ในประเทศไทย
ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง พรชัย ฐีระเวช แถลงผลการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค (APEC Finance Ministers’ Meeting: APEC FMM) เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา Janet L. Yellen เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือในประเด็นสถานการณ์เศรษฐกิจของภูมิภาคในปัจจุบัน พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของการดำเนินนโยบายการเงินการคลังในปัจจุบันและมุมมองต่อแนวทางการดำเนินนโยบายในอนาคตเพื่อสอดรับกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของภูมิภาคที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อการก่อหนี้สาธารณะเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งส่งผลต่อกำลังการผลิตในระบบเศรษฐกิจที่ลดลงและภาระงบประมาณในการสนับสนุนด้านสวัสดิการที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น
หลังจากการประชุมดังกล่าว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กฤษฎา จีนะวิจารณะ ได้เข้าร่วมหารือทวิภาคีกับสาธารณรัฐเกาหลี และสาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมีข้อสรุปดังนี้
ผลการหารือทวิภาคีกับ Ji-young Choi รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน สาธารณรัฐเกาหลี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กฤษฏา ได้ระบุว่า กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างออกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในการให้ใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา(Virtual Banking) ให้กับสถาบันการเงินต่างประเทศ และคาดว่าจะสามารถออกประกาศใช้ได้ในอนาคตอันใกล้ หลังจากที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน สาธารณรัฐเกาหลี ได้แจ้งว่าสถาบันการเงินของเกาหลีมีความสนใจขอใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Banking) ในไทย
ในขณะเดียวกัน สาธารณรัฐเกาหลีขอให้ไทยสนับสนุนการเป็นประธานร่วมภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน+3 ในปีหน้า และขอเสียงสนับสนุนจากไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ World Expo 2030 ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแจ้งว่าไทยพร้อมสนับสนุนและจะประสานงานไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาให้การสนับสนุนดังกล่าวด้วย
ด้านผลการหารือทวิภาคีกับ Indranee Thurai Rajah รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนที่สอง สาธารณรัฐสิงคโปร์ ได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกัน โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญ เช่น (1) การกระตุ้นเศรษฐกิจให้เข้าสู่สภาวะก่อนการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งไทยได้ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว และการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ (2) การพัฒนาความร่วมมือด้านพลังงานที่ยั่งยืน และ (3) การดำเนินมาตรการเพื่อรองรับสังคมสูงวัย เป็นต้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้แสดงความขอบคุณสิงคโปร์ที่สนับสนุนไทยในการประชุมภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน อาเซียน+3 และเอเปคมาโดยตลอด

Editor's Pick
