“คลัง” ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทย ปี 2567 จากเดิมที่จะขยายตัว 2.8% ลงมาอยู่ที่ 2.4% ผลจากภาคการส่งออกและการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมหดตัว ในขณะที่ภาคการเกษตรเผชิญกับภาวะภัยแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญ และการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐประจำปีงบประมาณ 2567 ล่าช้า

“คลัง” ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทย เหลือ 2.4% อย่างไรก็ตามถ้าสามารถเบิกจ่ายโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ได้ในไตรมาสสี่ของปีตามแผน จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยปี 2567 เติบโตได้ไม่น้อยกว่า 3.3%

ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะ โฆษก กระทรวงการคลัง พรชัย ฐีระเวช แถลงผล การประมาณการ เศรษฐกิจไทยปี 2567 ว่า

“เศรษฐกิจไทย ในปี 2567 คาดว่า จะขยายตัว ที่ 2.4 % (ช่วง คาดการณ์ ที่ 1.9 % ถึง 2.9 %) ปรับตัว ลดลง จากที่เคย คาดการณ์ ไว้ในช่วง เดือนมกราคม ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจไทย จะเติบโต ที่ 2.8%

ซึ่งเป็น ผลมาจาก ภาคการส่งออก และ การลงทุนใน ภาคอุตสาหกรรม ของประเทศ ลดลง เกินกว่า ที่คาดการณ์ ไว้

ในขณะที่ ภาคการเกษตร ชะลอตัว ผลจาก ภาวะภัยแล้ง จาก ปรากฏการณ์ เอลนีโญ รวมไปถึง การใช้จ่าย งบประมาณ ปี 2567 ของ ภาครัฐ ล่าช้า จากเดิม

แต่อย่างไร ก็ตาม เศรษฐกิจไทย ปี 2567 ยังเติบโต ได้ดีกว่า ปี 2566 ที่มี อัตราการขยายตัว ที่ 1.9%”

ปัจจัย ที่สนับสนุนให้ เศรษฐกิจไทย ขยายตัวในปี 2567 ประกอบด้วย

ภาค การท่องเที่ยวในปี 2567 จะมี นักท่องเที่ยว ชาวต่างประเทศ เดินทางเข้ามา ในประเทศไทย จำนวน 35.7 ล้านคน ขยายตัว สูงถึง  26.7 %  ต่อปี ส่งผลดี ต่อ ภาค การท่องเที่ยว และ ธุรกิจ บริการ ที่เกี่ยวข้อง

เกิดการ จ้างงาน และ เพิ่มรายได้ ประชาชน ส่งผลดี ต่อความเชื่อมั่น ของภาค ธุรกิจ ทำให้ คาดว่า การลงทุน ภาคเอกชน จะขยายตัว ที่  3.7 % ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ 3.2 % ถึง 4.2 %)

ขณะที่ การบริโภค ภาคเอกชน จะขยายตัว ได้ต่อเนื่อง ที่ 3.5 % ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ 3.0 %ถึง 4.0 %)

สำหรับ การส่งออก สินค้า จะขยายตัว ที่ 2.3 % ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่  1.8  % ถึง 2.8 % ) โดยคาดว่า การส่งออก สินค้า จะสามารถ กลับมาฟื้นตัว ได้ในช่วง ครึ่งปีหลัง

และ มูลค่า การนำเข้า สินค้า จะขยายตัว ที่ 3.4  % ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ 2.9 % ถึง 3.9 %) โดยมี สินค้าทุน ขยายตัว เพิ่มขึ้น สะท้อนถึง การลงทุน ภาคเอกชน ที่จะ เพิ่มขึ้น ในอนาคต

“คลัง” ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทย

“ดิจิทัล วอลเล็ต” มา กระตุ้น เศรษฐกิจ โต ได้ถึง 3.3 %

โฆษก กระทรวงการคลัง ได้กล่าวเพิ่มเติม ว่า แต่ ถ้ามีเงินจาก โครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต เข้ามา ใน ไตรมาสสี่ ของปี 2567 ตามแผนที่ วางไว้

จะทำให้เศรษฐกิจไทย เติบโต ได้ ไม่น้อยกว่า 3.3% กรณี ประชาชน ใช้จ่าย เม็ดเงิน ส่วนใหญ่ ภายใน สิ้นปี 2567

อย่างไรก็ตาม โฆษก กระทรวงการคลัง ให้ความเห็นว่า  ยังควรติดตาม ปัจจัยที่จะ ส่งผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจไทย อย่างใกล้ชิด

อาทิ

1)  ความขัดแย้ง ทางภูมิรัฐศาสตร์ โลก ในภูมิภาคต่าง ๆ ที่ เริ่มรุนแรง มากขึ้น อาจเป็น ข้อจำกัด แล ะส่งผลกระทบ ต่อการเติบโต ของเศรษฐกิจไทยในระย ะถัดไป เช่น

สถานการณ์ ความตึงเครียด ระหว่าง อิสราเอล และ อิหร่าน ที่อาจส่ง ผลกระทบ ต่อ ราคาพลังงาน ให้ปรับตัว สูงขึ้น

การแข่งขัน เชิง ยุทธศาสตร์ ระหว่าง จีน และ สหรัฐฯ

2) ความผันผวน ของตลาดการเงิน โลก จากการ ดำเนิน นโยบาย การเงิน ที่เข้มงวด ของประเทศคู่ค้า หลัก และ ปัญหา สถาบันการเงิน ใน ต่างประเทศ โดยเฉพาะ ประเทศ สหรัฐอเมริกา และ สหภาพยุโรป และ

3) การฟื้นตัว ของภาวะ เศรษฐกิจ ประเทศคู่ค้า สำคัญของ ไทย โดยเฉพาะประเทศจีนจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์

ที่มาของข้อมูล : https://www.fpo.go.th/main/Home.aspx

 ข่าวที่เกี่ยวข้อง : https://bangkokx.me/imf-economy-18042024/