
คน 5 เจนฯ กับ การใช้ชีวิต ท่ามกลาง พายุเศรษฐกิจ จาก ความกังวล กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สู่การใช้ชีวิตที่ให้ความสำคัญ กับ ตัวเอง สภาพแวดล้อม และ สุขภาวะที่ดี เป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการ ต้องปรับกลยุทธ์ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
บริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด บริษัท วิจัยการตลาดและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์สินค้า จากประเทศญี่ปุ่น ได้เผยแพร่งานวิจัยในงานสัมนา ที่จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคใน 5 เจนเนอเรชั่น ที่เปลี่ยนแปลงไป ตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจาก 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่
- การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และ ดิจิทัล ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งรูปแบบการใช้ชีวิต และ พฤติกรรมของผู้บริโภคโดยรวม
- การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ที่มีความผันผวนและความไม่แน่นอน ที่เกิดจากนโยบายเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปจากตลาดเสรี สู่การกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงทั้งเทคโนโลยี และ เศรษฐกิจ ส่งผลให้ผู้คนเปลี่ยนแนวคิดในการใช้ชีวิต ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตและเห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตมากขึ้น
- รูปแบบการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ตามการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ และ เทคโนโลยี
- การให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาวะที่ดี(Wellness) และสิ่งแวดล้อม

จิรภัทร์ กาญจนโอสถ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท สปา ฮาคูโฮโด ประเทศไทย กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงปัจจัยต่างๆ ดังกล่าว นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนในแต่ละรุ่น ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาสินค้าและบริการที่ต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนที่เปลี่ยนไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากระบบตลาดเสรี สู่ ตลาดที่มีการกีดกันทางการค้า และ การตั้งกำแพงภาษี ของสหรัฐอเมริกา ทำให้ผู้ประกอบการในแต่ละประเทศต้องพัฒนาสินค้า ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของคนในแต่ละเจนเนอเรชั่น ที่มีอยู่ในโลกปัจจุบันเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
จิรภัทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันอาเซียนมีประชากรเกือบ 700 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของประชากรโลก เป็นพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก จากสถิติ พบว่า การเติบโตของตัวเมืองเข้ามาอยู่ในอาเซียนมากกว่า 50% สะท้อนให้เห็นว่าอาเซียนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันในกลุ่มอาเซียนที่ Slow Growth ของประชากร มีไทย สิงคโปร์ เวียดนาม อัตราการเกิดต่ำ ยังมีประเทศที่มีอัตราการเติบโตที่สมดุล อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์
สุดท้ายแล้วอาเซียนยังเติบโตด้วยคนรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งคนรุ่นใหม่มีวิธีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ทั้งคนในเจนเนเรชั่น Z และ เจนเนเรชั่น Alpha รวมไปถึง คนในเจนเนอเรชั่นอื่นๆ ทั้ง เจนเนอเรชั่น B (Baby Boomer) เจนเนอเรชั่น X เจนเนอเรชั่น Y ต่างก็มีวิถีที่มีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเดิม
คน 5 เจนฯ กับ การเปลี่ยนแนวคิดใช้ชีวิต “เพื่อความสุขของตัวเอง”

นัฐกาญจน์ วัฒนมงคลศิลป์ ผู้นำด้านการวางแผนกลยุทธ์ บริษัท สปา ฮาคูโฮโด และ ผู้บริหาร Human Lab กล่าวถึง พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของคน 5 เจนเนอเรชั่น ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของทั้ง 5 ปัจจัยข้างต้นว่า กลุ่มคนในทุกเจนเนอเรชั่น ต่างเปลี่ยนวิธีคิดในการใช้ชีวิต ที่ให้ความสำคัญกับความต้องการและความสุขของตัวเองมากขึ้น อาทิ
คนในกลุ่ม เจนเนอเรชั่น B (Baby Boomer) คืออายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป คนในรุ่นนี้ในอดีตเมื่อเกษียณอายุ ก็มักจะอยู่บ้าน เลี้ยงหลาน แต่คนเจนเนอเรชั่นนี้ในปัจจุบัน เขาอยากที่จะสร้างอะไรไว้กับสังคม กลับมาใช้ชีวิตตามที่ฝัน ทำให้วัยเกษียณ กลายเป็นวัยที่เริ่มต้นกับการใช้ชีวิตกับประสบการณ์ใหม่ๆ เราจะเห็นคนที่อายุ 60 เริ่มกลับเข้ามาทำงาน มีการขยายเวลาอายุเกษียณ ปัจจุบันคนวัยนี้กลายเป็น Content Creator ในไทยปัจจุบันมีถึง 80,000 คน
ในขณะที่คนใน Generation X อายุ 44-59 ปี ที่ถูกมองว่าเป็น Sandwich Generation หรือ เดอะแบก เป็นคนที่ อยู่ระหว่างพ่อแม่ และ ลูกของพวกเขา แต่ในปัจจุบัน พฤติกรรมของพวกเขาเปลี่ยนไป พวกเขาจะดูแลตัวเองมากขึ้น ให้ความสำคัญกับความต้องการของตัวเองมากขึ้น เดินทางท่องเที่ยวกับเพื่อน ไปจนถึงเดินทางคนเดียวกลายเป็น The Daring Leapers แกร่งทะลุกรอบ แบกความรับผิดชอบในการดูแลตัวเองในแบบ Now or Never มีครอบครัว แต่ไม่ยึดติด ไม่แบกภาระต่างๆ ไว้ กับตัวเอง รับผิดชอบความต้องการของตัวเองมากขึ้น
ส่วนคน เจนเนอเรชั่น Y อายุ 29-43 ปี ในอดีตเป็น เจนเนอเรชั่นที่แบกรับความคาดหวังจากสังคม กลัวที่จะผิดพลาด กลัวตกเทรนด์ ปัจจุบัน เป็นคนในเจนเนอเรชั่นนี้มีความหลากหลาย ดูแลตัวเองมากขึ้น สู่ยุคการเติบโตของ The Architect is Now ความสุขรอไม่ได้ ชีวิตนี้ฉันกำหนดเอง My Life MY Rule หลายคนอยู่คนเดียว และ หลายคนที่แต่งงานก็เลือกที่จะไม่มีลูก แต่เลือกที่จะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นลูกในรูปแบบของ Furmily
ส่วนกลุ่มคนในเจนเนอเรชั่น Z อายุ 18-28 ปี ในอดีต เป็นคนที่เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน ให้ความสำคัญกับการเข้าทำงานในบริษัทขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบัน คนในกลุ่มนี้เลือกที่จะเป็นเจ้าของกิจการ ต้องการสร้างความสำเร็จให้กับตัวเองอย่างรวดเร็ว เป็น The change Makers ปลุกพลังสร้างโลกใหม่สร้างพลังให้กับชีวิต
จากผลการสำรวจของ ฮาคูโฮโด พบว่า 76% ของ คนในเจนเนอเรชั่น Z อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ และ อยากทำอะไรเพื่อโลก และ เพื่อสังคมด้วย สร้างโลกใบใหม่ที่ดีกว่าเดิม และ 65% ของคนรุ่นใหม่ในอาเซียน เลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ในขณะที่คนในเจนเนอเรชั่น อัลฟ่า(Alpha) อายุตั้งแต่ 1-15 ปี พร้อมพร สุภัทรวณิช ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยการตลาดและกลยุทธ สถาบัน ฮาคูโฮโด เพื่อการใช้ชีวิต และ อยู่อาศัยในอาเซียน กล่าวถึงคนในกลุ่ม เจนเนอเรชั่น อัลฟ่า ว่า เป็นกลุ่มที่เผชิญกับความไม่แน่นอนในหลายมิติ เป็นกลุ่มที่ครอบครัวเลี้ยงดู ที่นอกเหนือจาก กิน อิ่ม นอนหลับแล้ว พ่อแม่ในปัจจุบันจะเลี้ยงคนในเจนเนเรชั่นนี้ ให้มี ทักษะการเอาตัวรอด ในทุกสถานการณ์
คนในเจนเนอเรชั่น อัลฟ่า ถูกพัฒนาในเรื่องของการไม่ยอมแพ้ 42% ของคนในเจนเนอเรชั่นนี้ เชื่อว่าพวกเขามีอิทธิพลต่อพ่อแม่ และ 90% ระบุว่าคนที่มีอิทธิพลต่อพวกเขา คือครอบครัวและ เพื่อน และ 77% ชอบซื้อของที่หน้าร้าน มากกว่า ในอินเตอร์เน็ต
พฤติกรรมและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของคนในทุกเจนเนอเรชั่น นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงของภาคธุรกิจทั้งภาคการผลิตและบริการ ใครที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันกับความต้องการ ก็จะกลายเป็นผู้ชนะในตลาด จิรภัทร์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : https://bangkokx.me/digital-economy-16062025/
ที่มาของข้อมูล : https://www.tma.or.th/
